สถานเอกอัครราชทูตขอเชิญชวนร่วมโครงการบริจาคเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุเข้ากองทุนผู้สูงอายุ

11/05/2561

                   รัฐบาลได้ดำเนินโครงการบริจาคเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุเข้ากองทุนผู้สูงอายุตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2560 เป็นต้นมา เพื่อรองรับการดำเนินมาตรการให้เงินช่วยเหลือเพื่อการยังชีพแก่ผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อยจำนวน 3.6 ล้านคน ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น โดยนำเงินบริจาคมาจ่ายเป็นเงินช่วยเหลือเพิ่มเติมผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ

                   รัฐบาลได้กำหนดแนวทางในการดำเนินการแจ้งการบริจาคเบี้ยยังชีพฯ ผ่านสถานเอกอัครราชทูตของไทยในต่างประเทศ ดังนี้

                   1. คุณสมบัติของผู้เข้าร่วมโครงการบริจาคเบี้ยยังชีพฯ

                ผู้สูงอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไปที่ได้รับเบี้ยยังชีพฯ (ได้ลงทะเบียนขอรับเบี้ยยังชีพฯ ณ หน่วยงานลงทะเบียนในประเทศไทยแล้ว)

                    2. เอกสารประกอบการแจ้งบริจาคเบี้ยยังชีพฯ ในต่างประเทศ                                                        

                             2.1 กรณีแจ้งบริจาคด้วยตนเอง – นำบัตรประจำตัวประชาชนหรือหนังสือเดินทางมาแจ้งความประสงค์ขอบริจาคได้ที่สถานเอกอัครราชทูต

                             2.2 กรณีมอบอำนาจให้บุคคลอื่นดำเนินการแทน – ให้นำหนังสือมอบอำนาจพร้อมสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน หรือสำเนาหนังสือเดินทางของผู้มอบอำนาจ และสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน หรือสำเนาหนังสือเดินทางของผู้รับมอบ              

                    3. สิทธิประโยชน์ที่ผู้บริจาคเบี้ยยังชีพฯ จะได้รับ

                            3.1 เหรียญเชิดชูเกียรติ เพื่อเป็นการตอบแทนการเสียสละเงินเบี้ยยังชีพที่จะนำไปให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือ

                            3.2 สิทธิในการหักค่าลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา 1 เท่าของเงินบริจาค แต่เมื่อรวมกับเงินบริจาคอื่นแล้วไม่เกินร้อยละ 10 ของเงินได้พึงประเมินหลังจากหักค่าใช้จ่ายและหักค่าลดหย่อน ซึ่งกองทุนผู้สูงอายุจะจัดส่งใบเสร็จรับเงินและเหรียญเชิดชูเกียรติให้แก่ผู้บริจาคตามที่อยู่ที่ระบุในประเทศไทยเท่านั้น

สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้จากคู่มือการรับบริจาคเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ตามลิ้งค์ด้านล่าง             

http://www.mfa.go.th/main/contents/files/manual.pdf

          




 


Top